2 ถ้าผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ไม่นําเงินภาษีที่ตนมีหน้าที่หักนําส่งภายในกําหนดเวลาตาม 3. 0 จะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 1. 5 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องนําส่ง ทั้งนี้ ให้คํานวณเงินเพิ่มเป็นรายเดือน (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) นับแต่วันพ้นกําหนดเวลายื่นแบบฯจนถึงวันยื่นแบบฯ และนําส่งภาษี (มาตรา 27แห่งประมวลรัษฎากร)ถ้าผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไม่ยื่นแบบฯ ภายในกําหนดเวลาตาม 3. เว้นแต่จะแสดงว่าได้มีเหตุสุดวิสัย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2, 000 บาท(มาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร) 4. 3 ผู้ใดโดยเจตนาไม่ยื่นรายการที่ต้องยื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 200, 000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ(มาตรา 37 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร)
สรรพากรยุคใหม่ไม่ใช่แค่ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถยื่นภาษีเงินได้ประจำปีและจ่ายภาษีได้สะดวกมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เสียภาษีที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มสามารถผ่อนจ่ายภาษีได้ 3 งวดแบบไม่ต้องเสียดอกเบี้ยและไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนเงื่อนไขของการผ่อนจ่ายภาษีมีอะไรบ้างไปดูกัน เงื่อนไขของ การผ่อนจ่ายภาษี ในกรณีที่ยื่นภาษีแล้วมีค่าภาษีต้องจ่ายเพิ่ม กรมสรรพากรเปิดโอกาสให้ผู้เสียภาษีผ่อนชำระภาษีได้ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นภาษี ภ. ง. ด. 90 หรือ ภ. 91 ก็สามารถผ่อนชำระภาษีได้ โดยมีเงื่อนไขหลักๆ ได้แก่ ภาษีที่ผ่อนชำระได้ต้องมียอดเงินตั้งแต่ 3, 000 บาท ขึ้นไป สามารถผ่อนชำระภาษีได้ 3 งวดเท่าๆ กัน โดยไม่มีดอกเบี้ย และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สามารถขอรับสิทธิ์ตอนยื่นภาษีได้ทั้งบนเว็บไซต์สรรพากร (กรณียื่นภาษีออนไลน์) และสำนักงานสรรพากรท้องที่ (กรณียื่นแบบกระดาษ) วิธีการผ่อนจ่ายภาษี กรมสรรพากรได้กำหนดการผ่อนจ่ายภาษีไว้เป็น 2 กรณี ดังนี้ 1. ยื่นภาษีแบบกระดาษ หากคุณเลือกยื่นภาษีแบบกระดาษ และมีความประสงค์ต้องการแบ่งชำระค่าภาษีก็สามารถทำได้ติดต่อสำนักงานสรรพากรท้องที่ และสามารถขอเอกสาร บ. ช. 35 จากเจ้าหน้าที่สรรพากรท้องที่ได้เลย และจำให้ขึ้นใจว่า คุณจะต้อง จ่ายภาษีงวดที่ 1 พร้อมกับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี จ่ายภาษีงวดที่ 2 ภายในวันที่ 30 เมษายน จ่ายภาษีงวดที่ 3 ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2.
0 เว้นแต่ เงินได้ในการประกวดหรือแข่งขันให้คํานวณหักตามอัตราภาษีเงินได้ 2. 3 บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินดังต่อไปนี้ (เฉพาะกรณีการจ่ายเงินตามสัญญารายหนึ่งๆ ตั้งแต่ 1, 000 บาทขึ้นไป)ให้แก่ผู้รับซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (1) ค่าเช่า หรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้เนื่องจากการให้เช่าทรัพย์สินตามมาตรา 40 (5) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร (ไม่รวมถึงค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์) ให้คํานวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 5. 0 กรณีจ่ายค่าเช่าเรือตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมพาณิชย์นาวีที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้แก่ผู้รับซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทย ให้คํานวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1. 0 (2) เงินได้จากวิชาชีพอิสระตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากรเฉพาะที่จ่ายให้แก่ผู้รับที่เป็นผู้มีภูมิลําเนาในประเทศไทย หรืออยู่ในประเทศไทยให้คํานวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 3. 0 (3) ค่าจ้างทําของที่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (7) หรือ (8) แห่งประมวลรัษฎากร ให้คํานวณหักไว้ในอัตราร้อยละ3. 0 (4) ค่าโฆษณา ให้คํานวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 2. 0 (5) เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่เป็นการจ่ายเงินได้จากการให้บริการ นอกเหนือจาก (3) (4) และ (7) (ไม่รวมถึงการจ่ายค่าบริการของโรงแรมหรือภัตตาคาร) ให้คํานวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 3.