น้ำตาลกดภูมิคุ้มกันของร่ างกาย 2. น้ำตาลทำให้แร่ธาตุในร่าง กายเสียสมดุล 3. น้ำตาลทำให้เด็กสมาธิสั้น วิตกกังวล ว้าวุ่นใจ ไม่อยู่นิ่ง 4. น้ำตาลทำให้เซื่องซึม มีอาการง่วงเหงาหาวนอน 5. น้ำตาลส่งผลต่อการเรียนรู ้ในเด็ก ผลการเรียนลดลง 6. น้ำตาลทำให้ระดับไตรกลีเซ อร์ไรด์สูงขึ้น 7. น้ำตาลทำให้ระบบการต่อต้า นการติดเชื้อแบคทีเรียลดลง 8. น้ำตาลเป็นตัวทำลายไต 9. น้ำตาลลดไขมันตัวที่เป็นป ระโยชน์ต่อร่างกาย (HDLs) 10. น้ำตาลเพิ่มไขมันตัวที่เ ป็นโทษต่อร่างกาย (LDLs) 11. น้ำตาลอาจนำไปสู่ภาวะขาด ธาตุโครเมียม (Chromium deficiency) 12. น้ำตาลเป็นเหตุให้ขาดธาต ุทองแดง 13. น้ำตาลรบกวนการดูดซึมแคล เซียมและแมกนีเซียม 14. น้ำตาลอาจนำสู่มะเร็งเต้ านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ตรง 15. น้ำตาลก่อให้เกิดมะเร็งล ำไส้ใหญ่ และเพิ่มอัตราเสี่ยงในผู้หญ ิงสูงขึ้น 16. น้ำตาลเป็นปัจจัยเสี่ยงต ่อมะเร็งท่อน้ำดี 17. น้ำตาลจะไปเพิ่มปริมาณน้ ำตาลในเลือด กรณีต้องอดอาหาร 8 ชั่วโมง 18. น้ำตาลทำให้การมองเห็นลด ลง 19. น้ำตาลเพิ่มระดับเซโรโทน ิน ซึ่งทำให้หลอดเลือดหดตัวลง 20. น้ำตาลเป็นสาเหตุของภาวะ น้ำตาลตก 21. น้ำตาลก่อให้เกิดภาวะกรด เกินในกระเพาะอาหาร 22.
น้ำตาลเพิ่มระดับอะดรีนา ลีน (สารทุกข์) ในเด็ก 23. น้ำตาลเพิ่มความเสี่ยงต่ อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน 24. น้ำตาลเร่งให้แก่ก่อนวัย เพิ่มริ้วรอยย่น และผมหงอก 25. น้ำตาลนำสู่โรคพิษสุราเร ื้อรัง 26. น้ำตาลเป็นตัวเสริมให้ฟั นผุ 27. น้ำตาลทำให้มีน้ำหนักเกิ น โรคอ้วน 28. น้ำตาลกินมากเสี่ยงต่อโร คโครห์น (Crohn's disease) 29. ในคนไข้โรคลำไส้เล็กส่วน ต้นอักเสบ น้ำตาลทำให้แผลบริเวณนี้สมา นยาก มีแก๊ส 30. น้ำตาลเป็นเหตุแห่งโรคไข ข้ออักเสบ 31. น้ำตาลเป็นเหตุแห่งโรคหอ บหืด 32. น้ำตาลเป็นเหตุแห่งโรคเช ื้อราในช่องคลอด ติดเชื้อราง่าย 33. น้ำตาลเป็นเหตุก่อให้เกิ ดก้อนนิ่ว 34. น้ำตาลเป็นเหตุก่อให้เกิ ดนิ่วในไต 35. น้ำตาลเป็นเหตุให้เกิดโร คหัวใจขาดเลือด 36. น้ำตาลเป็นเหตุให้เกิดโร คไส้ติ่งอักเสบ 37. น้ำตาลทำให้เกิดอาการเจ็ บปวดกรณีเส้นเลือดตีบต้น 38. น้ำตาลเป็นเหตุให้เกิดริ ดสีดวงทวารทางอ้อม 39. น้ำตาลเป็นเหตุให้เกิดเส ้นเลือดขอด 40. น้ำตาลทำให้การตอบสนองต่ อกลูโคสและอินซูลินเพิ่มขึ้ น ในผู้ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดกิน 41. น้ำตาลนำสู่โรคเหงือกอัก เสบ 42. น้ำตาลนำสู่โรคกระดูกผุ 43. น้ำตาลทำให้น้ำลายเป็นกร ด 44. น้ำตาลลดความไวต่ออินซูล ิน 45.
เพียงทาวาสลีนบาง ๆ ลงบนผิวของคุณทันทีหลังจากที่คุณอาบน้ำเสร็จในขณะที่ผิวของคุณยังชื้นอยู่ ช่วยให้ความชุ่มชื้นและปิดผนึกความชื้นทั้งหมดนั้น อีกทางเลือกหนึ่ง คือการทำความสะอาด 2 ครั้ง ใช้เซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คุณภาพดี จากนั้นทาวาสลีนเบา ๆ เป็นขั้นตอนสุดท้ายในกิจวัตรของคุณ คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ใดได้บ้าง? ก่อนอื่น วาสลีนบริสุทธิ์ 100% เพียวปิโตรเลียมเจลลี่ ที่คุณยายของเราแนะนำมาเสมอ การเริ่มต้นระบอบการดูแลผิวของคุณเป็นสิ่งที่ดี และถ้ามันหนักเกินไปสำหรับคุณ – เพียงแค่ไปหา Nivea สักตัว หรือผลิตภัณฑ์เช่น Aquaphor Healing Ointment ก็ยังทำงานได้อย่างมหัศจรรย์ CeraVe Healing Ointment เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยม ในขณะที่ Elizabeth Arden Eight Hour Cream Skin Protectant สามารถใช้แทนวาสลีนได้เช่นกัน กฎของการใช้ Slugging หากคุณมีผิวแห้งคุณสามารถลองใช้ทุกคืน หากคุณมีผิวที่เป็นสิวหรือผิวมันให้หลีกเลี่ยง หรือลองสัปดาห์ละครั้ง หรือสองครั้ง เพื่อดูว่าผลบนใบหน้าเป็นอย่างไร? มีการอักเสบของผิวหนังหรือไม่? ลองวิธี Slugging ซึ่งส่วนใหญ่ ในเดือนที่อากาศหนาวเย็นจะมีความสำคัญมาก ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่ออกฤทธิ์มากเกินไปเมื่อเกิดการระคายเคือง และอย่าพยายามขัดผิวด้วยสารเคมีก่อนที่คุณจะลองใช้ Slugging นะคะ ขอบคุณบทความจาก ขอบคุณรูปภาพจาก
วิธีแก้คอย่น: ทาครีมกันแดด แน่นอนว่ารังสียูวีจากแสงแดดทำร้ายผิวหน้าได้มากเพียงใด ก็ต้องทำร้ายผิวคอได้มากเพียงนั้นค่ะ และรังสียูวีนี่แหละค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้ผิวคอของเราเหี่ยวย่นหรือมีริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้นเมื่อเราบำรุงผิวที่คอแล้ว ก็ต้องปกป้องไปพร้อมๆกันด้วย จึงจะสามารถช่วยจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นค่ะ 4. วิธีแก้คอย่น: เลิกสูบบุหรี่ หลายๆคนคงเคยได้ยินมาว่าการสูบบุหรี่จะทำให้เราดูแก่ง่าย ซึ่งนอกจากสัญญาณแห่งวัยจะปรากฏอยู่บนใบหน้าแล้ว ยังปรากฏให้เห็นที่บริเวณผิวคอได้เช่นกันค่ะ ใครๆก็ไม่อยากคอเหี่ยวย่นจนดูแก่ ดังนั้นต้องงดสูบบุหรี่เลย เนื่องจากควันบุหรี่จะไปทำลายคอลลาเจน ส่วนนิโคตินจะทำให้หลอดเลือดตีบ นั่นหมายความว่าผิวหนังของเราจะได้รับออกซิเจนในปริมาณที่น้อยลง จึงทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายและดูแก่กว่าวัยนั่นเอง 5. วิธีแก้คอย่น: ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เรตินอยด์ หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินในชื่อเรตินอลหรือวิตามินเอก็ตาม ถือเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ที่สามารถช่วยลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆเลยก็ว่าได้ค่ะ เราจึงมักจะเห็นครีม Anti-Aging ต่างๆจะมีเรตินอลผสมอยู่ด้วยนั่นเอง ซึ่งหากว่าเราจะลดริ้วรอยบริเวณผิวคอแล้ว เรตินอลจึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวที่สามารถช่วยได้ดีเลย แต่การใช้เรตินอลจะต้องระวังเล็กน้อยค่ะ เพราะตัวนี้ค่อนข้างแรง เราอาจจะลองใช้ทีละน้อยๆก่อน หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ก็ได้ค่ะ 6.
Slugging เป็นเทรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใหม่ล่าสุดของ K-Beauty ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาความชุ่มชื้นและมาพร้อมกับผิวแห้ง รวมถึงการพอกหน้าด้วยปิโตรเลียมเจลลี่หรือวาสลีนหลังจากขั้นตอนการดูแลผิวที่จำเป็น เป็นขั้นตอนสุดท้ายในกิจวัตรตอนกลางคืนของคุณ ดังนั้น " slugging " คุณจะกลายเป็นคนที่ชอบความชุ่มฉ่ำก่อนเข้านอน ( ไม่น่าสนใจเหรอ? )
มีส่วนผสมของสารกรดลอริก (Lauric Acid) กรดลอริก แอซิด เป็นไขมันอิ่มตัว สามารถใช้ในงานทำความสะอาด เครื่องสำอางค์ ลอริก แอซิด ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทดแทนน้ำมันธรรมชาติ (sebum) ที่ร่างกายผลิตได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้นได้ดีที่สุด ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว หนึ่งในผลิตภัณท์จากธรรมชาติที่ไม่ทิ้งสาร เคมีตกค้างในร่างกายและผิวหนัง2. มีส่วนผสมของสารกรดไมริสติก (Myristic Acid) คุณสมบัติ เป็นสารชำระล้าง ช่วยในการทำความ สะอาด กรดไมริสติกเป็นไขมันอิ่มตัวที่ได้จาก พืชตระกลู มะพร้าว และ ปาล์ม เป็นสารที่ช่วยในการลดแรงตึงของผิว 3. มีส่วนผสมของสารฮโดรไลซ์ คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) คือ คอลลาเจนเสริม ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงใ ห้กับคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง ลดรอยเหี่ยวย่น หมองคล้ำ ทำให้ผิวคงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ4. มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบชาเขียว (Camellia Sinensis Leaf Extract) สามารถทำให้การระคายเคืองบริเวณผิวลดลง ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยด่างดำบนใบหน้า ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดการอักเสบของผิวหนัง5. มีส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วนัตโตะ (Natto Gum) ซึ่งเกิดจากการบ่มหมักตามธรรมชาติ มีประสิทธิภาพสูงในการให้ความชุ่มชื้นถึงผิวหนังชั้นใน โดยจากผลการวิจัยพบว่า มีความสามารถในการให้ความชุ่มชื้นผิวได้มากกว่า Hyaluronic acid สารสกัด Natto Gum ยังช่วยให้ผิวขาวอย่างอ่อนๆ เหมาะสำหรับใช้เป็นสาร whitening ตัวรอง เพื่อผสมกับสาร whitening ตัวหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้ผิวขาวของสูตรได้ดีมากขึ้น6.
วิธีแก้คอย่น: ทานอาหารเพื่อสุขภาพ นอกจากการดื่มน้ำแล้ว เรายังจะต้องเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วยเช่นกันค่ะ จึงจะทำให้เราได้ผิวสวยแบบครบสูตร ซึ่งอาหารที่เราทานเข้าไปในแต่ละวันล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อระบบร่างกายและผิวพรรณของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ดังนั้นหากอยากจะมีผิวที่ดีก็ต้องทานอาหารที่ดีค่ะ อย่างเช่น การทานผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย วิธีนี้จะทำให้ผิวเราสวยบวกสุขภาพดีอีกด้วย 10. วิธีแก้คอย่น: ฉีดโบท็อกซ์ ใครอยากมีผิวคอที่กระชับเต่งตึงแบบเร่งด่วน แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ค่ะ แต่การฉีดโบท็อกซ์จะเป็นการแก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะจะสามารถทำให้ผิวของเรากระชับเต่งตึงได้เพียง 3-5 เดือนเท่านั้น แล้วผิวของเราก็จะกลับมาเหี่ยวย่นดังเดิม แต่วิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่อยากสวยเร่งด่วน เพราะต้องออกงานหรือเป็นความประสงค์ส่วนตัวใดๆ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยได้แบบเร่งด่วน ไม่เหมือนวิธีอื่นๆที่อาจจะต้องใช้เวลาค่ะ บทความที่คุณอาจสนใจ อย่ามองข้าม! 7 พฤติกรรม ทำให้คอเหี่ยวย่น ไม่อยากหน้าตึง แต่คอเหี่ยว ต้องเลิก! 7 ครีมทาคอโดยเฉพาะ ยี่ห้อไหนดี ผิวคอกระชับ ไม่ดูแก่ หน้าตึงแล้ว คอเหี่ยวไม่ได้!